มาถึงตอนที่ 2 ของการ DIY ทำเครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วยตัวเอง ตอนนี้จะเล่าถึงการออกแบบและทำตัวถังหรือกล่องเครื่องเล่นแผ่นเสียง ขอให้ได้ดูภาพผลลัพธ์ของขั้นตอนนี้กันก่อน
คอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้สำหรับเรื่องหน้าตาคือเอาแบบที่เรียบง่าย ดูดี และประหยัดด้วยการใช้สิ่งของที่เหลือใช้ในบ้านมาเป็นวัตถุดิบ
มองไปรอบตัวก็ไม่เห็นอะไร เลยต้องมุดเข้าไปดูในที่เก็บของ คุ้ยๆ เขี่ยๆ ก็ไปเจอของที่น่าจะเอามาใช้งานได้ อย่างแรกก็คือเจ้านี่
สิ่งต่อไปที่ไปค้นเจอคือยางกันกระแทกประตู เคยซื้อมาติดหลายบาน แต่นี่คือเหลือ เหลืออยู่ 4 อันพอดี น่าจะเอามาทำขายางรองได้
ยิ่งลองเอามาวางตรงชั้นวางเหนือทีวี ยิ่งดูไม่ค่อยสวยมากเท่าไหรเพราะมันดูหนา
แต่คิดว่ายังสามารถหั่นให้บางลงได้ เพราะใส้ในอย่างแผงวงจรขยายเสียงและตัวหม้อแปลงก็ไม่ได้สูงอะไรมาก แต่จะหั่นได้แค่ไหนต้องได้ตัวชิ้นส่วนเครื่องในทั้งหมดมาวางดูก่อน
จากนี้ไปก็จะเป็นขั้นตอนการประกอบงานด้านไฟฟ้าและอืเลกโทรนิกส์ ซึ่งขอบอกเลยว่าสนุกตื่นเต้นมากสำหรับคนไม่เคยงานไฟฟ้าทั้งแรงสูงและแรงต่ำ จะว่าสนุกอาจจะทำให้ไขว้เขวและเชิญชวนมากไป ใช้คำว่าอันตรายอาจจะเหมาะกว่า เพราะไฟบ้านดูดคนได้ถึงตาย อันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดจะไปว่ากันในตอนต่อไปครับ
เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ได้ออกแบบและประกอบแบบเบื้องต้น ยังไม่ Final
กว่าจะได้แบบภาพข้างบนก็ผ่านการลงมือหลายวันทีเดียว จะค่อยๆ เล่าให้ฟังว่าได้ทำอะไรไปบ้างคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้สำหรับเรื่องหน้าตาคือเอาแบบที่เรียบง่าย ดูดี และประหยัดด้วยการใช้สิ่งของที่เหลือใช้ในบ้านมาเป็นวัตถุดิบ
มองไปรอบตัวก็ไม่เห็นอะไร เลยต้องมุดเข้าไปดูในที่เก็บของ คุ้ยๆ เขี่ยๆ ก็ไปเจอของที่น่าจะเอามาใช้งานได้ อย่างแรกก็คือเจ้านี่
แผ่นชั้นไม้วางของเหลือใช้ในบ้าน
มันคือชั้นไม้ทำจากแผ่น MDF ปิดผิวเป็นลายไม้สักสวยงาม ขนาดของมันคือ 30 x 120 ซม. หนา 1.5 ซม. สภาพยังดี 95% ผิวลายบางส่วนลอกเห็นเนื้อ MDF ผิวบางส่วนเริ่มพอง แต่คิดว่าสามารถเอามาใช้งานได้ ขัดกระดาษทรายใหม่แล้วปิดผิวใหม่ก็จะดูดีสิ่งต่อไปที่ไปค้นเจอคือยางกันกระแทกประตู เคยซื้อมาติดหลายบาน แต่นี่คือเหลือ เหลืออยู่ 4 อันพอดี น่าจะเอามาทำขายางรองได้
Door stop ที่เหลือจากตอนสร้างบ้าน เอามาทำขายางรองเครื่อง
แค่นี้ก็น่าจะพอเอามาทำกล่องหรือหีบเครื่องเล่นแผ่นเสียงแล้ว ต่อมาก็ต้องออกแบบว่าจะออกมาหน้าตาแนวไหน สุดท้ายก็มีปัญญาเค้นออกมาได้ประมาณนี้
พอตัดได้ครบ 6 ชิ้นแล้ว แผ่นบนที่เราจะเอามาวางตัวเครื่องเล่นก็ต้องเอามาเจาะเพื่อจะได้เอาเครื่องเล่นวางสอดลงไปได้ แต่จะตัดเจาะตรงแนวไหนก็ต้องเอาตัวเครื่องเล่นมาวัดและลองตัดบนกระดาษเสียก่อน ก็ลองผิดลองถูกอยู่นิดหน่อย ในที่สุดก็ได้แบบมาเป็นแผ่นนี้
ในที่สุดก็ได้ชิ้นไม้ครบถ้วนตามรูปนี้
ผลงานการออกแบบเครื่องเล่นแผ่นเสียงของตัวเอง
รูปแบบกล่องเครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็นแบบที่เรียบๆ มากๆ ตรงด้านหน้ามีปุ่มปรับเสียง ส่วนสายไฟเข้าออกไปอยู่ด้านหลัง ด้านบนไม่มีอะไรนอกจากตัวเครื่องเล่นเท่านั้น
พอได้รูปแบบแล้วก็มาถึงขั้นการลงมือตัดไม้ตีกล่อง จากชิ้นไม้ก็มาตัดขนาดตามแนวสีเหลือง
หงายแบบกระดาษลองวางเครื่องเล่นแผ่นเสียง
พอได้แบบกระดาษก็เอาไปทาบกับแผ่นไม้แล้วลอกแนวตัดตามแบบ
ลงทุนซื้อเลื่อยจิ๊กซอ 365 บาทจาก Shopee เพื่อการนี้
ตัดไปวางไป จนกว่าจะลงได้แบบสนิท
ในที่สุดก็ได้ชิ้นไม้ครบถ้วนตามรูปนี้
ชิ้นไม้ที่ตัดพร้อมสำหรับประกอบเป็นกล่องเครื่องเล่นแผ่นเสียง
จากนั้นก็ลองประกอบชิ้นไม้โดยจับตั้งแบบยังไม่มีการยึดกาวหรือตะปูใดๆ แค่ลองวางดูหน้าตาในเบื้องต้นดูก่อน
ตัวกล่องสำหรับยัดเครื่องในต่างๆ
ลองจัดแอมป์จิ๋วกับอแดปเตอร์ใส่ไปก่อน น่าจะเหลือที่ให้ Phono กับหม้อแปลงอีก 2 ตัว
หน้าตาเมื่อวางเครื่องเล่นแผ่นเสียงบนกล่องแล้ว
ใส่ขายางรองใต้กล่อง จับยกง่ายและดูดซับแรงสะเทือน
หน้าตาเมื่อแรกเห็นรู้สึกเลยว่ามันหนาเทอะทะมาก ทำให้ดูเชยแหลก เหมือนเครื่องเล่นเมื่อ 100 ปีก่อน อาจจะเพราะความสูงของแผ่นข้างที่มากถึง 7.5 ซม. บวกกับความหนาของแผ่นบนและแผ่นล่างอีก ทำให้ความหนาของกล่องเป็น 10 ซม. มันหนามาก ไม่เดิ้นเท่าไหร่ยิ่งลองเอามาวางตรงชั้นวางเหนือทีวี ยิ่งดูไม่ค่อยสวยมากเท่าไหรเพราะมันดูหนา
ถ้าตัวกล่องบางกว่านี้ลงอีกหน่อยคงดูสวยขึ้น
นี่ก็เป็นหน้าตาเบื้องต้นของเครื่องเล่นแผ่นเสียง DIY ของผม เป็นการประกอบแบบวางต่อกันเฉยๆ ไม่ได้ยึดกาวหรือตะปูน๊อตแต่อย่างใด แค่ให้เห็นหน้าตาคร่าวๆ ซึ่งเท่าที่ดูรู้สึกว่าเครื่องหนาไปนิด เลยดูโบราณ แต่คิดว่ายังสามารถหั่นให้บางลงได้ เพราะใส้ในอย่างแผงวงจรขยายเสียงและตัวหม้อแปลงก็ไม่ได้สูงอะไรมาก แต่จะหั่นได้แค่ไหนต้องได้ตัวชิ้นส่วนเครื่องในทั้งหมดมาวางดูก่อน
จากนี้ไปก็จะเป็นขั้นตอนการประกอบงานด้านไฟฟ้าและอืเลกโทรนิกส์ ซึ่งขอบอกเลยว่าสนุกตื่นเต้นมากสำหรับคนไม่เคยงานไฟฟ้าทั้งแรงสูงและแรงต่ำ จะว่าสนุกอาจจะทำให้ไขว้เขวและเชิญชวนมากไป ใช้คำว่าอันตรายอาจจะเหมาะกว่า เพราะไฟบ้านดูดคนได้ถึงตาย อันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดจะไปว่ากันในตอนต่อไปครับ
Comments
Post a Comment